เกรวีนาปกป้องสปาเล็ตติ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองฟุตบอลในยุโรป ผมไม่เคยเห็นประธานสมาพันธ์คนไหนเข้ามาปกป้องผู้จัดการทีมอย่างเด็ดขาดเหมือนกับกาเบรียเล่ เกรวีนา ที่ทำกับลูเชียโน สปาเล็ตติ โดยไม่ใช่แค่ให้กำลังใจ แต่ยังยกย่องเขาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสมัยใหม่。

“ชายผู้สวมเกราะเหล็ก”

เกรวีนาเรียกสปาเล็ตติด้วยคำว่า “สวมเกราะเหล็ก” เพื่อรับมือกับเสียงโจมตีที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งฟังดูเหมือนฮีโร่มาร์เวลมากกว่าโค้ชฟุตบอล แต่เบื้องหลังคำเปรียบเทียบนี้คือข้อเท็จจริงสำคัญ: การคุมทีมชาติต่างจากโค้ชสโมสรอย่างสิ้นเชิง。

ข้อมูลสำคัญ:

• อิตาลีคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนยู-17 (2023)
• ได้รับรางวัล UEFA Grassroots (ผู้ได้รับรางวัลรายแรกของอิตาลี)
• 82% ของผู้ได้รับรางวัลไปถึงรอบไฟนอลระดับใหญ่ภายใน 5 ปี

การพัฒนาเยาวชนคืออาณาเขตของความสำเร็จ

ประธานสมาคมใช้ผลงานเยาวชนเป็นไพ่สำคัญเพื่อตอบโต้วิกฤตรายงานข่าว โดยการคว้าแชมป์ยู-17 และรางวัลอันทรงเกียรไพบูลย์แสดงให้เห็นว่าแหล่งกำเนิดฝีเท้าไม่แห้งแล้ง มันแค่จำเป็นเวลาในการเติบโต เหมือนอังกฤษเอง ก็ใช้เวลานานหลังจากความสำเร็จระดับฐานรากจนไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ。

สิ่งที่เกรวีนาน้ำตาแตกจริงๆ?

เขายอมบอกตรง ๆ ในงานสัมภาษณ์ Exclusive: คนที่โจมตีเจตนารมณ์ของสปาเล็ตก่อนจะมองหาเรื่องแท็กтик เพราะเขาบอกชัดเจน: “เขาคือคนซื่อตรงที่ผมเคยพบเจอในวงการฟุตล” การยกย่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าเพียงแค่อวยพร มันคือการปฏิกิริยาโดยตรงกับกระแสข่าวลบเกี่ยวกับความเหมาะสมของเขา。

ความเห็นของฉัน: จากประสบการณ์ศึกษาสมาคมหลายแห่ง การออกมาสนับสนุนแบบสาธารณะครั้งนี้อาจเป็นกลยุทธ์บริหารคนระดับยอดเยี่ยมหรืออาจนำไปสู่เส้นทางอาชีพตนเอง หากพลาดในรอบคัดเลือกเวิลด์คัพ ก็ตามลำดับ เห็นได้ว่าแผนการสื่อสารของ FA อังกฤษดูสงบเงียบไปเลยเมื่อเทียบกัน。

ก้อนหินแห่งประวัติศาสตร์

เกรวินาเอื้อมถึงแชมป์โลกปี 1982 และปี 2006 เพื่อบอกให้มองเห็นแนวคิดสำคัญ: พฤฒิกามะดาเหนือความสามารถเพียงอย่างเดียว เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นยอมเสียสละเพื่อสร้างชัยชนะ เราจะได้มองเห็นความภาคภูมิใจจริง ๆ หากเจ generational คนใหม่นี้ยอมรับปรัชญานี้ ก็อาจเปลี่ยนชะตากรรมของการเข้ารอบเวโลรสเฟอร์แข่งขันโลกได้อย่างแท้จริง.